Skip to main content

thisAble.me จะพาคุณไปรู้จักกับหนังสือที่เล่าชีวิตและเหตุการณ์ของผู้คน ผู้ซึ่งประสบทั้งเรื่องที่อยากเจอและไม่อยากเจอ แต่ใจกว้างพอที่จะบอกเล่าเรื่องราวของชีวิตของตนเองและผู้คนในมุมมองที่แตกต่าง ที่กล้าจะฉายภาพใหม่ๆ ซึ่งคุณอาจจะนำไปเป็นบทเรียน แรงบันดาลใจ หรือเก็บเป็นแง่มุมแห่งการเรียนรู้ไปใช้ในชีวิตของคุณก็ได้ เราอยากให้คุณลองมาฟังเสียงหัวใจของผู้อื่นดู ว่าพวกเขาเป็นอย่างไรกันบ้า


พลังที่ซ่อนอยู่
สุดารัตน์ เทียรจักร์


บันทึกจากเรื่องจริงของ ”องุ่น” สาวน้อยผู้โชคร้าย ที่ตื่นมาพบภาพใหม่ของตัวเองที่ไร้ความรู้สึก หลังประสบอุบัติเหตุร่างกายตั้งแต่ช่วงคอลงไปไม่สามารถขยับตัวได้เลย แต่เธอเลือกที่จะบันทึกความทรงจำทั้งดีและร้ายที่ผ่านเข้ามา ตั้งแต่ช่วงแรกของชีวิตว่าเธอต้องพบเจออะไร จนถึงวันที่เธอกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง มีบทเรียนหลายเรื่องที่เธอบันทึกไว้ให้พวกเราได้อ่านและเรียนรู้ไปพร้อมกัน

จนกว่าเด็กปิดตาจะโต
"พลอย" สโรชา กิตติสิริพันธ์ุ


บันทึกการ "มอง" สองปีเต็มของ พลอย การมองที่แม้จะไม่ได้ใช้ดวงตา แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคในการเรียนรู้ เรื่องเล่าในการดำเนินชีวิต แง่คิดและมุมมองบางอย่าง บทเรียนที่เธอได้พบเจอและนำมาคิดไตร่ตรอง ความงามด้านภาษาไม่ทำให้เรารู้สึกว่านี่เป็นการบรรยาย แต่รู้สึกเหมือนเราไปนั่งฟังเรื่องเล่าของใครสักคนมากกว่า...

เป็นคนธรรมดามันง่ายไป
กตัญญู สว่างศรี


หลายคนน่าจะรู้จักกับภาพยนตร์ "The Down เป็นคนธรรมดามันง่ายไป" ของ “วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์” ที่บอกเล่าเรื่่องราวที่เขาพาไปรู้จักกับคนเป็นดาวน์ซินโดรม หนังสือเล่มนี้กำลังบันทึกเรื่องราวหนึ่งปีเต็มของเรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อถ่ายทอดชีวิตของคนเป็นดาวน์ซินโดรมในมิติมุมมองใหม่ๆ ทั้งความสุข ความเศร้า การเรียน ครอบครัว และมิตรภาพ แง่งามของความสุขแบบที่ใครหลายคนยังไม่เคยเห็นมาก่อน

โลกของคนไร้บ้าน
บุญเลิศ วิเศษปรีชา


ในช่วงสิบกว่าปีที่แล้ว มุมมองต่อคนไร้บ้าน เป็นไปด้วยความแปลกแยก แตกต่าง ผสมกับความน่ารังเกียจ แต่บุญเลิศ วิเศษปรีชา กลับเริ่มสงสัยและตั้งคำถามต่อสภาพที่เกิดขึ้น ว่าเหตุผลกลใดจึงทำให้คนที่ "เคย" มีบ้าน กลายเป็นคนที่ต้องพักกายาริมถนน และไม่จบเพียงที่เขาจะอ่านตำราและคลายความสงสัยที่ห้องสมุด หรือตำราวิชาการเล่มอื่น บุญเลิศตัดสินใจลงไปใช้ชีวิตส่วนหนึ่งกับคนไร้บ้านจริงๆ กินอยู่หลับนอนเฉกเช่นพวกเขาจริงๆ ตั้งคำถามและพูดคุยกับคนไร้บ้านจริงๆ ในงานวิทยานิพนธ์ดีเด่นทางมานุษยวิทยาของเขาที่อาจจะดูวิชาการจ๋า แต่ภาษากลับอ่านง่ายเหมือนเรื่องเล่า ผ่านเลนส์ของบุญเลิศที่จะทำให้มุมมองของคนไร้บ้านเปลี่ยนไปตลอดกาล

HOW DEEP IS YOUR DREAM
สุดารัตน์ เทียรจักร์


เหมือนภาคต่อของทางเดิน ”องุ่น” ที่แม้อุบัติเหตุจะทำให้เธอต้องนั่งวีลแชร์มาตั้งแต่อายุสิบสาม ร่างกายใช้งานไม่ได้ตั้งแต่ช่วงอกยันปลายเท้า แต่มุมมองครั้งนี้ไม่ได้อยากจะพาไปมองมุมมองผ่านรถวีลแชร์ แต่จะพาเราดำดิ่งสู้ใต้ทะเลไปตามฝันใหม่ของเธอ เริ่มตั้งแต่การเข้าแข่งขันชิงทุนในโครงการ “ก้าวออกจากฝัน (แล้ว)สร้างสรรค์ให้เป็นจริง” ที่จัดโดยพันทิป จนกระทั่งเธอได้รับรางวัลเป็นทุนในการเรียนดำน้ำและออกทริปตามความฝันของเธอ ที่เธอใจดีให้เราเป็นผู้ร่วมการเดินทางตลอดทริปของเธอ

how i love my mother
ภาริอร วัชรศิริ


พาย ก็เป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาคนนึง ที่แม้จะไม่ได้มีครอบครัวที่่ครบพ่อแม่ลูก แต่แม่ของพายผู้เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวก็ดูแลพายได้ดีที่สุดเท่าที่แม่คนนึงจะทำได้ พายเหมือนเป็นคุณหนูคนนึงที่่ไม่น่าจะมีอะไร
แต่เมื่อเหตุการณ์พลิกผัน ทำให้แม่ คนเดียวของเธอป่วยเป็นอัมพฤกษ์ และกลายเป็นผู้ป่วย จากบทบาทของคนที่เคยถูกดูแล กลายเป็นผู้ดูแล ที่ทำให้เธอได้เห็นมุมมองของผู้หญิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนนึงของเธอ ผ่านบันทึกของพายและแม่ ที่สามารถสร้างเสียงหัวเราะและคราบน้ำตาในเวลาเดียวกัน

ดอกไม้ ใต้ภูเขาน้ำแข็ง
อรสม สุทธิสาคร


หนังสือเลือกนำเสนอมุมมองความรุนแรงในมุมที่ใกล้และไม่น่ามองที่สุด นั่นคือความรุนแรงในครอบครัว ฉายภาพให้เห็นรอยฟกช้ำทางสังคม บาดแผลจากจากความรุนแรงในครอบครัว ทำให้เกิดเสียงร้องของความเจ็บปวดที่เราเข้าไปช่วยได้ยาก เพราะความเป็น “คนนอก” ตั้งแต่การทำร้ายร่างกาย ประจานข่มขู่ จนไปถึงการข่มขืนลูกในไส้ของตนเอง ด้วยมุมมองของ อรสม สุทธิสาคร ที่เผยให้ถึงด้านข้างในจิตใจคนอย่างมีชั้นเชิง และสื่อสารเรื่องราวในแบบที่่เข้าใจและชัดเจน แต่เรารับรู้และซึมซับไปอย่างไม่รู้ตัวเลย