Skip to main content

เว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ระบุว่า เมื่อวันที่ 15 ก.ย.2560 พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) การจัดบริการสุนัขนำทางสำหรับคนตาบอดในประเทศไทย ระหว่างกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, กองทัพบก, บริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด และสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย โดยมีตัวแทนหน่วยงานเข้าร่วมจำนวน 50 คน
 


พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนโดย “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” และมอบหมายให้กระทรวง พม.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เพื่อให้เข้าถึงสิทธิและสวัสดิการอย่างเท่าเทียมกันในสังคม เช่น การจัดสวัสดิการเบี้ยความพิการ การจัดสิ่งอำนวยความสะดวกให้สามารถดำรงชีวิตอิสระ รวมถึงส่งเสริมอาชีพและการมีงานทำเพื่อการพึ่งพาตนเองได้ กระทรวง พม. จึงมีนโยบายจัดบริการสุนัขนำทางสำหรับคนตาบอดในประเทศไทยเพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเดินทางของคนตาบอด และสอดคล้องกับพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2556 ซึ่งระบุว่า คนพิการมีสิทธิเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้จากสิ่งอำนวยความสะดวกอันเป็นสาธารณะ ตลอดจนสวัสดิการและความช่วยเหลืออื่นจากรัฐ โดยมีสิทธิที่จะนำสัตว์นำทาง เครื่องมือหรืออุปกรณ์นำทาง หรือเครื่องช่วยความพิการใดๆ ติดตัวไปในยานพาหนะหรือสถานที่ต่างๆ โดยได้รับการยกเว้น

ทั้งนี้ ในแต่ละหน่วยงานมีหน้าที่ ดังนี้ 1.กองทัพบกได้มอบหมายกรมการสัตว์ทหารบกสนับสนุนด้านกำลังพลชุดครูต้นแบบที่ผ่านการฝึกอบรมจากผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ โดยชุดครูฝึกต้นแบบจะต้องสามารถถ่ายทอดให้กับบุคลากรชุดต่อไป การสนับสนุนกำลังพลในการเลี้ยงดูสุนัขของโครงการในระยะแรก และการจัดทำแนวทางการฝึกสุนัขนำทางสำหรับคนตาบอด รวมทั้งสนับสนุนอาคาร และสถานที่ สำหรับการฝึกและการเลี้ยงสุนัขในระยะแรก 2.บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ฯ สนับสนุนการจัดเตรียมและอาหารสุนัขตามปริมาณที่เหมาะสม และ 3.สมาคมคนตาบอดฯ สนับสนุนและคัดเลือกคนพิการทางการเห็น เข้ารับการฝึกตามหลักสูตร

สำหรับการลงนามแบ่งเป็น 2 ชุด คือ ชุดแรก เป็นการลงนามร่วมกันระหว่างกระทรวง พม. กับกองทัพบก สำหรับชุดที่ 2 ระหว่างกระทรวง พม. และบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ฯ และสมาคมคนตาบอดฯ ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ พก. ประสานความร่วมมือกับองค์กรทั้งในและต่างประเทศ ในการสนับสนุนการนำเข้าครูฝึกและสุนัขจากต่างประเทศ พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ การประสานขอรับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน พร้อมทั้งสนับสนุนด้านบุคลากรและสถานที่ เพื่อเตรียมการจัดตั้งเป็นสถาบันการจัดบริการสุนัขนำทางสำหรับคนตาบอดในประเทศไทยต่อไป
 

“การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นการริเริ่มครั้งแรกของประเทศไทยในการขับเคลื่อนการจัดบริการสุนัขนำทางสำหรับคนตาบอด นับเป็นการแสดงถึงพลังของความร่วมมือจากหลายภาคส่วนในรูปแบบประชารัฐ ในการส่งเสริมให้คนพิการสามารถเข้าถึงสิทธิและอยู่ในสังคมอย่างเท่าเทียม ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้คนพิการได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิต สามารถดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีต่อไป” พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าว