Skip to main content

คริสต์มาสเป็นอีกหนึ่งเทศกาลแห่งความสุข ที่ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ต่างก็ชื่นชอบและอยากร่วมสนุกในเทศกาลนี้ไม่ต่างกัน ทั้งของขวัญ เล่นปั้นหิมะในเมืองหนาว ของประดับตกแต่งต้นสนรูปทรงสามเหลี่ยม หรือการได้สัมผัสกับซานตาคลอสตัวกลม เคราขาว ที่จะนำของขวัญและความสุขมาแจกจ่ายให้กับเด็กๆ พ่วงด้วยเสียงหัวเราะที่เป็นเอกลักษณ์ แม้ว่านี่อาจเป็นภาพจำที่คุ้นชินสำหรับเทศกาลคริสต์มาสทั่วไป แต่สำหรับคริสต์มาสของเด็กที่มีความต้องการพิเศษนั้น กลับมีอะไรที่ต่างออกไป ซึ่งไม่ยากเกินกว่าที่จะจัดสรรเพื่อสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้กับพวกเขาเหมือนกับเด็กคนอื่น

อย่างเช่นที่ไรอัน บีช่วยให้จัสตินลูกชายวัย 5 ขวบของเขาที่มีภาวะออทิสติก ได้ทำความรู้จักกับซานตาคลอส อย่างใกล้ชิด ที่ห้างวูดฟิลด์ มอลล์ ในเมืองโชมเลิร์ก รัฐอิลลินอยส์


ภาพจาก https://www.disabilityscoop.com/2017/11/30/sensory-friendly-santa/24471/

ซานตาครอสที่เป็นมิตร

ก่อนที่ห้างวูดฟิลก์ มอลล์ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองโชมเบิร์ก รัฐอิลลินอยส์จะเปิดทำการให้เข้ามาจับจ่ายและใช้บริการกัน พ่อแม่ของเลียม มันเนลลีวัย 4 ขวบพาลูกชายสุดที่รักของพวกเขามานั่งเล่นอยู่บนตักของซานตาคลอส ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ห้างจัดขึ้น เพื่อจำลองบรรยากาศเทศกาลวันคริสต์มาสที่เป็นมิตรกับเด็กที่มีความต้องการพิเศษโดยเฉพาะ ซึ่งช่วยสร้างประสบการณ์และความทรงจำที่ดีของเทศกาลนี้ให้กับเด็กๆ ก่อนจะถึงวันคริสต์มาสจริงในวันที่ 25 ธ.ค.

ถึงเลียมจะเป็นเด็กที่พูดหรือสื่อสารตอบกลับด้วยวาจาไม่ได้ แต่ซานตาคลอสก็ยังคงพูดคุยกับเด็กชายอย่างที่ปฏิบัติกับเด็กคนอื่นๆ เด็กชายสวมแว่นตาขอบฟ้า ผูกโบว์ไทสีแดงคนนี้เข้าไปหยอกล้อกับซานตาคลอส เขาเอานิ้วเล็กๆ ของตัวเองลองจิ้มพุงกลมๆ และลองลูบเครา ก่อนที่จะถ่ายรูปยิ้มแฉ่งเป็นที่ระลึกเพื่อบันทึกความทรงจำไว้

เลียมเป็นเด็กคลอดก่อนกำหนด เด็กชายมีภาวะของโรคสมองพิการหรือโรคซีพี ซึ่งย่อมาจากซีรีบรัล เพาร์ซี (Cerebral Palsy: CP) ด้วยภาวะของโรค ทำให้เขามีปัญหาด้านการรับรู้อยู่บ้าง และตัวเลียมเองก็อาจมีแนวโน้มว่าไม่รู้จักซานตาคลอสก็เป็นได้

“มันจำเป็นนะที่จะต้องสร้างความทรงจำ เลียมจะได้สามารถมองย้อนกลับไป และยังมีภาพถ่ายไว้ให้ระลึกถึงด้วย” เอริกา มันเนลลีแม่ของเลียมกล่าว

เลียมเป็นเด็กคนแรกที่เข้ามาเยี่ยมชมงานอีเวนท์แคริง ซานตา (Caring Santa) ของห้างวูดฟิลด์ มอลล์ในช่วงเช้าก่อนห้างเปิด ภายในงานมีกิจกรรมมากมายเกี่ยวกับวันคริสต์มาสที่ถูกจัดเตรียมให้เหมาะสมกับเด็กๆ กลุ่มนี้ โดยมีหนึ่งในซานตา จากบรรดาซานตาที่มีกว่า 375 คน มาให้ความสุขกับเด็กๆ

นอกจากนี้ ซานตารายอื่นๆ ก็เริ่มออกไปสร้างความสุขให้เด็กทั่วทั้งสหรัฐอเมริกา กิจกรรมสร้างความทรงจำดีๆ ในวันคริสต์มาสจากเหล่าซานตา ได้รับการสนับสนุนจากองค์กร Cherry Hill และองค์กรพิทักษ์สิทธิที่มีชื่อว่า Autism Speaks

หลายครอบครัวลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อพบปะกับซานตาคลอส และใช้สิทธิเข้าร่วมกิจกรรมของเทศกาลวันคริสต์มาสก่อนที่ห้างจะเปิดทำการ และแม้ว่าในงานกิจกรรมดังกล่าว จะมีแสง สี เสียง ประกอบกิจกรรมภายในงาน แต่สำหรับเลียมแล้ว แสงและเสียงภายในงาน ไม่เป็นปัญหาสำหรับภาวะที่เขาเป็น

สำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ เช่น โรคที่เกี่ยวกับสมองหรือสติปัญญา การรับรู้และการตอบสนองต่อสิ่งเร้าของพวกเขาจะต่างจากเด็กทั่วไป แสง สี เสียง ที่มากหรือดังเกินไป หรือเกิดขึ้นในรูปแบบที่เด็กไม่คุ้นเคย ภายในงานเลี้ยงหรือสถานที่อื่นใดก็ตาม อาจทำให้การปรับตัวต่อสภาพแวดล้อมของเด็กๆ การจัดงานที่ออกแบบมาสำหรับพวกเขาโดยเฉพาะจึงใส่ใจต่อทุกรายละเอียด ที่อาจส่งผลเสียต่อเด็กกลุ่มนี้ได้

องค์กร Cherry Hill ได้สร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจอย่างการพบปะกับซานตา คลอสให้กับเด็กๆ และผู้คนทั่วทั้งสหรัฐอเมริกาและแคนาดา โดยเริ่มปล่อยโครงการ คุณซานตาใจดี หรือ Sensor-Friendly Santa ซึ่งให้ความใส่ใจกับความสุขในเทศกาลคริสต์มาสของเด็กๆ ทุกคน ถึงแม้ว่าเด็กคนนั้นจะพิการก็ตาม โดยเริ่มโครงการมาตั้งแต่ปี 2554 และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วมาจนถึงปัจจุบัน

ลิซา กลอริง หัวหน้าโครงการและผู้ดูแลเจ้าหน้าที่ขององค์กร Authism Speaks ซึ่งเป็นโปรเจคร่วมขององค์กร Cherry Hill มา 3 ปี กล่าวว่า การที่โครงการ Sensory-Friendly Santa ได้รับความนิยมอาจเป็นเพราะการตระหนักรู้และความต้องการของเด็กและครอบครัวที่มากขึ้น โดยในปีนี้โครงการซานตาใจดีขยายไปในสถานที่ต่างๆ มากกว่า 300 แห่งทั่วทั้งสหรัฐอเมริกา ซึ่งมากกว่าปีที่แล้วที่มีเพียง 180 แห่ง

“เราจะถามทุกครอบครัวว่า สำหรับเด็กๆ ของพวกเขา ใช้แสงในงานได้ไหม หรือใช้เสียงได้ไหม” เฮเธอร์ ลอยด์ หัวหน้าฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจของห้างวูดฟิลด์ มอลล์ บอกเล่าถึงความใส่ใจที่มีต่อการจัดงานเพื่อเด็กๆ ที่มีความต้องการพิเศษ

ภายในงานแต่ละครอบครัวจะได้ใช้เวลากับซานตาคลอส ครอบครัวละ 15 นาที พร้อมทั้งดินสอสีและขนมขบเคี้ยวมากมาย บางครอบครัวมาพร้อมกับชุดเข้าชุดกัน เด็กบางคนใส่ชุดนอนยาว เด็กบางคนเล่นลอดตัวผ่านปราสาทน้ำแข็ง นอกจากนี้ยังมีพื้นที่จำลองโลกหิมะขนาดยักษ์ ซึ่งเป็นที่อยู่ของซานตาคลอส และเด็กๆ สามารถสนุกสนานไปกับหิมะประดิษฐ์ที่โปรยปรายจากข้างบนได้อีกด้วย

ถ้ามีครอบครัวหนึ่งหยุดทำกิจกรรมอยู่ ณ จุดๆ หนึ่ง ก็จะมีเจ้าหน้าที่มาคอยดูแลอยู่กับพวกเขา ถ้าเด็กๆ ต้องใช้เวลาในการทำความคุ้นเคย และกระตุ้นความกล้าในตัวเองที่จะเข้าไปสัมผัสใกล้ชิดกับซานตาคลอส เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลเหล่านี้ก็จะไม่เร่งรัดให้เด็กๆ ต้องอึดอัดแต่อย่างใด

“เมื่อคุณมีเด็กๆ ที่ไวต่อการรับรู้หรือเด็กที่มีความต้องการพิเศษ คุณไม่ควรที่จะไปเร่งรัดพวกเขา เพราะมันคือช่วงเวลาสำหรับเด็กๆ โดยเฉพาะ” มิกกี เทปลี เดินทางมาจากเมืองฮ็อฟแมน เอสเตทส์ เพื่อมาร่วมในงานอีเวนท์ครั้งนี้พร้อมกับลูกสาว 1 คน ลูกเลี้ยงชาย 1 คน และลูกชายที่เธอรับมาอุปการะอีก 2 คน

เทปลีกล่าวว่า จัสตินลูกเลี้ยงของเธอมีภาวะออทิสติกและไม่พูด การรู้จักอดทนรอคิวพร้อมกับครอบครัวอื่นที่มาร่วมงานอีเวนท์นี้ ช่วยสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากชีวิตประจำวันทั่วไปของเขา

กว่าจะเป็นซานตาครอส

ก่อนจะมาเป็นคุณซานตาสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ บรรดาซานตาคลอสทั้งหลายจะต้องเข้ารับการฝึกอบรมพิเศษ เพื่อให้เป็นซานตาคลอสที่มีความเข้าใจเด็กที่มีความต้องการพิเศษ รูธ โรเซนควิสต์ โฆษกประจำองค์กร Cherry Hill กล่าวว่า กิจกรรมนี้เป็นการปล่อยพื้นที่ให้เด็กๆ อย่างแท้จริง โดยก่อนที่จะถึงเทศกาลคริสต์มาสจริงในวันที่ 25 ธ.ค. วูดฟิลด์ มอลล์ได้ต้อนรับเด็กๆ และครอบครัวมากกว่า 40 ครอบครัวแล้วจนเต็มพื้นที่  เด็กๆ สามารถใช้เวลาหยอกล้อเล่นกับซานตาคลอสได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่สำหรับแพ็กเกจการถ่ายภาพกับซานตาคลอสเป็นที่ระลึกต้องมีการเสียค่าใช้จ่ายราว 24.99 ดอลลาร์

จากการรายงานบนหน้าเว็บไซต์ของ Autism Speaks  รัฐอิลลินอยส์มีสถานที่ 13 แห่งที่จัดเตรียมไว้สำหรับงานซานตาใจดีเพื่อเด็กที่มีความต้องการพิเศษ

ดาว์น และ ทิม คาร์โลฟสกี เป็นอีกหนึ่งครอบครัวที่ได้รับประสบการณ์ดีๆ จากงานนี้เพราะลินคอล์น ลูกชายวัย 10 ขวบของพวกเขามีภาวะออทิสติก ซึ่งทำให้ยากต่อการปรับตัวกับสิ่งเร้าที่ไม่คุ้นเคย

 “ฉันจะไม่ได้มาห้างนี้และไม่มีความทรงจำกับซานตาเลย ถ้าฉันไม่ได้พาลูกชายของฉันมาด้วย เด็กๆ สามารถทำกิจกรรมทุกอย่างได้ และนั่นมันคือความทรงจำที่ดีมากจริงๆ” ดาว์น คาร์โลฟสกีกล่าว

ครอบครัวของดาว์นและทิมตั้งใจมาร่วมงานนี้เป็นเวลา 5 ปีแล้ว และกลายเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมประจำวันหยุดของครอบครัวไปแล้วด้วย และคาดว่า จะกลายเป็นหนึ่งในประเพณีประจำครอบครัวของเธออย่างแน่นอน

“ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่า พวกเด็กๆ จะขออะไรจากซานตา แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการที่พวกเขาได้มาร่วมงานและทำกิจกรรมเกี่ยวกับวันคริสต์มาสอย่างเด็กคนอื่นต่างหาก” ดาว์น คาร์โลฟสกีกล่าว

 

แปลและเรียบเรียงจาก

https://www.disabilityscoop.com/2017/11/30/sensory-friendly-santa/24471/