เวลาเปลี่ยนไป อะไรหลายอย่างก็เปลี่ยนไปตาม รวมถึงวิธีการคัดเลือกนักศึกษาเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยตั้งแต่ระบบเอ็นทรานซ์, แอดมิชชั่น, สอบตรง, GAT-PAT หรือล่าสุดระบบ “TCAS” ซึ่งเพิ่งเริ่มใช้ในปี 61 เป็นปีแรก จึงทำให้หลายคนยังสงสัยว่า ระบบที่ว่านี้คืออะไร ต่างกับระบบเดิมอย่างไร สอบเหมือนเดิมหรือมีอะไรถูกเปลี่ยนแปลงบ้าง รวมถึงโครงการรับนักศึกษาพิการยังมีอยู่หรือไม่ แล้วเราต้องสมัครหรือหาข้อมูลจากไหน ThisAble.me จึงรวบรวมมาให้อ่านกัน
TCAS คืออะไร ?
TCAS หรือ Thai University Center Admission System เป็นระบบคัดเลือกคนเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย ถูกออกแบบโดยที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทอป.) ที่ระบุว่า เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ จากระบบแอดมิชชั่นเดิม
TCAS 5 สถานี
สถานีที่ 1 : รอบ Portfolio
- ไม่มีข้อเขียน อาจมีสัมภาษณ์หรือทดสอบเฉพาะทาง
- พิจารณาจากแฟ้มผลงานของเรา
- สมัครและคัดเลือกโดยมหาวิทยาลัยโดยตรง
สถานีที่ 2 : รอบโควตา
- โควตาในพื้นที่ โควตาโครงการพิเศษต่างๆ ของทางมหาวิทยาลัย
- อาจใช้คะแนนจากข้อสอบกลางอย่าง 9 วิชาสามัญ / GAT / PAT
- อาจมีการสอบข้อเขียนหรือทดสอบเฉพาะทาง
- สมัครและคัดเลือกโดยมหาวิทยาลัยโดยตรง
สถานีที่ 3 : รอบรับตรงร่วมกัน
- นักเรียนที่อยู่ในโครงการ กสพท. (กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย), โครงการอื่นๆ ตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด
- ใช้เกรดเฉลี่ยสะสม (GPAX) / ONET / GAT / PAT
- เลือก 4 สาขาวิชาไม่ต้องเรียงลำดับ ( อาจติดทั้งหมดได้แล้วค่อยเลือก 1 ที่ในการยืนยันสิทธิ์ )
สถานีที่ 4 : รอบแอดมิชชั่น
- เกณฑ์คัดเลือกเหมือนในปีเก่าๆ
- เลือกได้ 4 อันดับ ต้องเรียงลำดับ
- ใช้ GPAX, O-NET, GAT/PAT
สถานีที่ 5 : รอบรับตรงอิสระ
- สมัครและคัดเลือกโดยมหาวิทยาลัยโดยตรง มหาวิทยาลัยใช้วิธีการรับตรงในรูปแบบของตัวเอง
แล้วต่างจากแอดมิชชั่นอย่างไร ?
ในรอบแอดมิชชั่นที่ผ่านๆ มา มีนักเรียนเลือกสมัครในรอบโควตาและรับตรงกับทางมหาวิทยาลัยเป็นจำนวนมาก ในจำนวนนั้นมีคนที่ยืนยันสิทธิ์เข้าเรียนแล้วแต่ไม่สละสิทธิในรอบแอดมิชชั่น ทำให้เกิดการกันพื้นที่ของคนที่ยังไม่มีที่เรียน เพราะบางมหาวิทยาลัยนั้นไม่เข้าระบบเคลียริงเฮ้าส์ ( ศูนย์ประสานงานรับตรง ระบบยืนยันสิทธิ์ก่อนเข้าแอดมิชชั่น )
TCAS เลยเกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหา อย่างแรกระบบนี้จะเริ่มต้นหลังนักเรียนจบ ม.6 แล้วเพื่อเด็กจะได้ไม่ต้องหยุดเรียนมาสอบกันบ่อยๆ ลดปัญหาการกันที่กันเองและลดการเสียเปรียบได้เปรียบคนจน คนรวย ในการต้องจ่ายเงินเพื่อยืนยันสิทธิ์ตามมหาวิทยาลัยเพราะระบบนี้ จ่ายเงินปุ๊ปตัดสิทธิ์รอบต่อไปทันทีเลย เท่ากับว่า 1 คนมี 1 สิทธิ์ในมือเท่านั้น มีการเพิ่มภาษาเกาหลี ในวิชาความถนัดทางภาษา ( PAT7 )
ให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นเรารวบรวมภาพประกอบที่มีการอธิบายให้มองเห็นภาพรวมกันได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ข้อเสียของ TCAS 61 มีอะไรบ้าง
อ่านความแตกต่างของ TCAS กับระบบเดิมแล้วมองเห็นข้อดีของระบบมากขึ้นแล้วใช่ไหมล่ะ แต่ใช่ว่าระบบจะมีแต่ข้อดีเท่านั้น ข้อเสียที่ระบบเองยังต้องพัฒนาเปลี่ยนแปลงก็มีอยู่เหมือนกัน
อย่างแรกคือการสอบ GAT-PAT เพียงครั้งเดียวทำให้เด็กเองต้องพยายามอ่านหนังสือกันอย่างกดดัน ในปีก่อนๆ นักเรียนสามารถสอบได้ถึง 2 ครั้ง นั่นทำให้เด็กได้รู้แนวข้อสอบจากครั้งแรกแล้วกลับไปอ่านเพิ่มในจุดที่ตัวเองทำไม่ได้มาแก้ตัวในครั้งที่ 2 แล้วถึงเลือกคะแนนที่ดีที่สุดในการยื่นสอบ
จากอีกหนึ่งปัญหาที่เด็ก 61 ปีแรกของระบบประสบกันถ้วนหน้า นั่นคือรอบ 3 หรือรับตรงร่วม รอบที่สามารถเลือก 4 สาขาและมีสิทธิ์ติดทั้ง 4 สาขานั่นทำให้เด็กที่ไม่ติดเลยใน 4 สาขานั้นต้องเสี่ยงรอในรอบถัดไป ส่วนเด็กที่ติดมากกว่า 1 สาขาก็ต้องเลือกไปสัมภาษณ์เพียงที่เดียวเท่านั้น ปัญหานี้เลยไม่เกิดเพียงแค่กับเด็ก ตัวมหาวิทยาลัยเองก็ได้รับผลกระทบจากการที่เด็กมีชื่อติดในคณะของตนแต่ไม่ได้เลือกมาสัมภาษณ์เพราะเลือกที่อื่นแทน ทำให้คณะเองก็ขาดโอกาสในการสัมภาษณ์เด็กเข้าศึกษาในรอบนั้นไปด้วย ทางกลับกัน บางคณะที่มีเด็กเลือกไปสัมภาษณ์มากกว่าจำนวนที่เปิดรับทำให้เด็กหลายคนพลาดโอกาสที่จะติดมหาวิทยาลัยทั้งๆ ที่สอบติดแต่สัมภาษณ์ไม่ผ่าน
มากกว่านั้นการที่รอบรับตรงร่วมกับ กสพท. แล้วเด็ก กสพท. สามารถเลือก 4 อันดับแล้วยังเลือกรับตรงทั่วไปได้อีก 3 อันดับ ทำให้โอกาสของเด็กรับตรงทั่วไปยิ่งน้อยลงไปอีก เพราะคะแนนของเด็ก กสพท. ค่อนข้างสูงมากทำให้หลายคนสามารถติดทั้งในส่วนของ กสพท. และส่วนของคณะทั่วไปอีก แต่สุดท้ายแล้วก็เลือกเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น นั่นทำให้เด็กทั่วไปรู้สึกเสี่ยงมากกว่าเดิม แค่แข่งขันกับเด็กคณะทั่วไปด้วยกันเองก็หวั่นใจพอแล้ว ยังต้องสู้กับเด็ก กสพท.ที่คะแนนสูงมากกกอีกด้วย
เปลี่ยนแล้ว TCAS 62
จากปัญหาที่เกิดขึ้นใน TCAS61 ทำให้ ทปอ. มองเห็นปัญหาที่ต้องแก้ไขพัฒนา จนทำให้ TCAS62 มีการเปลี่ยนแปลงดังนี้
- ปรับระยะเวลาทั้งหมดจาก 10 เดือน เหลือแค่ 4 เดือน จากเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม
- รับตรงรอบ 3 ยังคงเลือก 4 อันดับ แต่เรียงลำดับเหมือนรอบแอดมิชชั่นและประกาศสิทธิ์เพียงลำดับเดียว
- เมื่อยืนยันสิทธิ์แล้ว สามารถสละสิทธิ์ได้เพียงครั้งเดียว
นี่ยังไม่ใช่แผนสรุปทั้งหมดยังสามารถมีการเปลี่ยนแปลงได้อยู่เรื่อยๆ บทสรุปของแผนระบบ TCAS62 จะออกมาแบบทางการให้น้องๆ เตรียมตัวในเดือนสิงหาคมนี้
แล้วมหาวิทยาลัยไหนมีโครงการรับนักศึกษาพิการบ้าง ?
มหาวิทยาลัยหลายที่เองก็ให้ความสำคัญกับการศึกษาของคนพิการเห็นได้จากโครงการรับนักศึกษาพิการเข้าศึกษาต่อ แต่ไม่ใช่ทุกคณะที่เปิดสอนจะสะดวกต่อการเรียนของคนพิการทุกประเภท มหาวิทยาลัยแต่ละที่ก็มีข้อจำกัด รายละเอียดปลีกย่อยและมาตรฐานของคะแนนส่วนกลางในการคัดเลือกนักศึกษา แม้ว่าการรับตรงในโครงการนักศึกษาพิการจะจัดขึ้นโดยมหาวิทยาลัยเอง แต่ก็มีบางส่วนที่เข้าไปอยู่ในระบบการคัดเลือกแบบ TCAS รอบที่ 2 ด้วยเช่นกัน มาดูกันดีกว่าว่า มหาวิทยาลัยไหนมีโครงการรับนักศึกษาพิการแบบใดและอยู่ในช่วงเดือนไหนกัน !
ตามข้อมูลของโครงการพิเศษ ซึ่งรับนักศึกษาพิการเข้าเรียนของปี 2561 ระบุว่า
- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เปิดรับสมัครโครงการนักศึกษาพิการช่วงเดือนตุลาคม ในหลากหลายคณะ โดยมีการกำหนดประเภทความพิการในการรับสมัคร ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารและสมัครได้ที่ www.reg.tu.ac.th หรือ www.sa.tu.ac.th หรือขอรับใบสมัครได้ด้วยตนเองที่ห้องศูนย์บริการคนพิการ อาคารสำนักงารอธิการบดี ชั้น 1 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (รังสิต) โทรสอบถาม 02-564-444 ต่อ 1298 - 1299
- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จุฬาฯ มีโครงการรับนักศึกษาพิการเพียงโครงการเดียวคือโครงการรับนักเรียนผู้พิการอัจฉริยภาพ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งเปิดรับสมัครในช่วงเดือนเมษายน สามารถติดตามข่าวสารและสมัครได้ที่ http://www.admissions.chula.ac.th/
- มหาวิทยาลัยมหิดล
เปิดรับสมัครนักศึกษาพิการในหลายหลายคณะจำนวน 1-2 คน ในแต่ละสาขาวิชา ในช่วงเดือนมีนาคม - เมษายน ติดตามข่าวสารและสมัครได้ที่ https://admission.mahidol.ac.th/
- มหาวิทยาลัยขอนแก่น
เปิดรับสมัครในช่วงเดือนตุลาคม ในหลากหลายสาขาวิชา โดยมีข้อกำหนดความพิการในแต่ละคณะ เนื่องจากบางสาขาวิชา อุปกรณ์การเรียนและอาคารเรียนไม่เอื้อกับนักศึกษาพิการบางประเภท
ติดตามข่าวสารได้ที่ https://admissions.kku.ac.th/
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
เปิดรับสมัครในช่วงธันวาคมในหลากหลายวิชาและมีการกำหนดประเภทความพิการ
ติดตามข่าวสารและสมัครได้ที่ http://admission.kmutt.ac.th
- มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ
เปิดรับสมัครในช่วงพฤศจิกายน – ธันวาคม ในคณะที่กำหนด หากเป็นคนพิการทางการได้ยิน จะต้องใส่เครื่องช่วยฟังและสามารถเรียนร่วมได้ ติดตามข่าวสารและสมัครได้ที่ http://admission.swu.ac.th หรือ งานรับนักศึกษาใหม่ กองบริการนักศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ โทร 02-649-5712-4
- มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เปิดรับสมัครในช่วงเดือนพฤศจิกายนและพฤษภาคม ในระบบ TCAS รอบ 2 และ 3 ในหลากหลายคณะ สามารถติดตามข่าวสารและสมัครได้ที่ https://www1.reg.cmu.ac.th/ugradapply/index.php
- มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
เปิดรับสมัครในช่วงเดือนธันวาคม - มกราคม
ติดตามข่าวสารและสมัครได้ที่ http://www.admission.mfu.ac.th/
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
รับสมัครในช่วงตุลาคม - พฤศจิกายน
ติดตามข่าวสารและสมัครได้ที่ www.sut.ac.th
- มหาวิทยาลัยทักษิน
รับสมัครในช่วงเดือนกรกฎาคม
ติดตามข่าวสารและสมัครได้ที่ http://www2.tsu.ac.th/org/student/
- มหาวิทยาลัยบูรพา
รับสมัครในช่วงเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม
ติดตามข่าวสารและสมัครได้ที่ http://e-admission.buu.ac.th/
- มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร
รับสมัครในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ติดตามข่าวสารและสมัครได้ที่ https://www.snru.ac.th/
- มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
ติดตามข่าวสารหรือข้อมูลการสมัครได้ที่ http://www.dusit.ac.th/ หรือ http://entrance.dusit.ac.th/TCAS/home.html
ก่อนที่จะมีระบบ TCAS มหาวิทยาลัยต้องเป็นคนส่งชื่อนักศึกษาเข้าระบบเพื่อตัดสิทธิ์ แต่ในระบบ TCAS นักศึกษาจะต้องเข้ายืนยันสิทธิ์ด้วยตนเอง หากยืนยันสิทธิ์เข้าศึกษาแล้วจะถูกตัดสิทธิ์ในรอบแอดมิชชั่นทันที ทั้งนี้ การคัดเลือกนักศึกษาของแต่ละมหาวิทยาลัยยังคงใช้วิธีการและมาตรฐานเดิม
นอกเหนือจากโครงการพิเศษเพื่อรับนักศึกษาคนพิการเข้าเรียนแล้ว นักศึกษาพิการที่ต้องการเรียนต่อในคณะที่ไม่ได้ถูกระบุในโครงการพิเศษนี้ก็สามารถยื่นแอดมิชชั่นได้เหมือนกับเพื่อนๆ คนอื่นในสนามแข่งขันเดียวกัน การมีโครงการนักศึกษาพิการจึงเป็นเหมือนการอำนวยความสะดวกและเพิ่มโอกาสที่จะเข้าถึงมหาวิทยาลัยของนักศึกษาพิการนั่นเอง
ภาพประกอบ methawee khamdee