Skip to main content

เป็นครั้งแรกที่เราเกริ่นไม่ได้ว่าจะคุยกับใคร ครั้งนี้มีความจำเป็นที่เราต้องปิดหน้า และปิดชื่อผู้ให้สัมภาษณ์ ด้วยหน้าที่การงานของเธอ ‘ไซด์ไลน์’ ยังไม่ใช่อาชีพที่สังคมยอมรับและอย่างที่รู้ๆ กัน พวกเธอยังไม่ถูกยอมรับในทางกฎหมาย เรานัดเธอมาคุยกันแถวร้านกาแฟในปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง แทนที่จะเป็นพื้นที่เทาๆ เต็มไปด้วยแสงสีอย่างที่คนอื่นมักจินตนาการ  

มองภายนอกเธอคือผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่ตอนกลางวันเป็นเจ้าของร้านอาหาร กลางคืนเธอให้บริการความสุขกับผู้ชาย ซึ่งรวมไปถึงผู้ชายพิการ ที่น้อยคนจะคิดพวกเขาเป็นกลุ่มลูกค้าอีกกลุ่ม เราชวนเธอคุยเรื่องงานและลูกค้าของเธอ ทั้งมิติเรื่องเพศและเซ็กซ์ของคนพิการ ผ่านพื้นที่ที่หลายคนมองว่าเป็นสีเทา

“งานแรก”

ไซด์ไลน์: ปกติเรารับงานผ่านทางกลุ่มแชท มีพี่คนหนึ่งแนะนำมาว่ามีลูกค้าพิการนะ ลองดูไหม ตอนแรกเราชั่งใจอยู่สักพักเพราะลึกๆ เรากังวล แต่ก็ยังไม่ปฏิเสธนะ ลองคุยกับเขาดูก่อน เขาบอกเราว่าเขาทำได้อะไรได้บ้างและทำได้ในระดับไหน เขาคุยกับเราสุภาพมากๆ พอได้คุยแล้วก็รู้สึกโอเค เลยตอบพี่เขาไปว่า "โอเคพี่ หนูลองดูแล้วกัน”


งานแรกกับคนพิการเรานัดกันที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เขาเป็นอัมพาตทั้งตัวต้องมีคนมาช่วยยก ตอนแรกเราก็เขินนิดหน่อย (ยิ้ม) เพราะเป็นงานแรกของเรากับคนพิการ และไม่รู้ว่าพนักงานหรือคนในโรงแรมจะมองเรายังไง แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรเรา พอถึงห้อง ก่อนจะเริ่มงานเราก็คุยกันก่อนว่าเขาต้องการแบบไหน ทำได้แค่ไหนบ้าง เขาถามว่าเราโอเคไหม พอโอเคกันทั้งสองฝ่ายก็ไม่มีปัญหาอะไร

เซ็กซ์ไม่ใช่แค่สอดใส่

มีเคสคนพิการที่สอดท่อปัสสาวะและนั่งวีลแชร์ เขาบอกเราก่อนเลยว่าสอดใส่ไม่ได้นะ ขอแค่กอด เราก็โอเค กอดเขา หอมเขา นั่งคุยเล่นด้วย บางคนไม่เสร็จด้วยซ้ำ เหมือนเราส่งความรู้สึกดีๆ และช่วยเติมเต็มความต้องการของเขามากกว่า เรามองว่าเซ็กซ์ไม่ได้จำกัดแค่การสอดใส่ เซ็กซ์กับบางคนเพียงแค่สัมผัสเบาๆ ก็โอเคแล้ว

ผู้ชายพิการที่มีครอบครัวแล้วก็มาใช้บริการเหมือนกัน เคสแบบนี้อาจจะมองได้ 2 มุมคือ การสนองความต้องการทางเพศกับการนอกใจ

เราตอบสนองความต้องการทางเพศของเขาในขณะเดียวกันเราก็ไม่คิดว่าการมาใช้บริการแบบนี้คือการนอกใจคู่ตัวเองนะ ถ้าลองมองในมุมของคนพิการ เขาก็มีอารมณ์ทางเพศไม่ต่างกับคนทั่วไปเลย แต่คู่ของเขาอาจมองข้ามเรื่องนี้ไปเพราะความเหนื่อยล้าจากการทำงาน หรือปัจจัยอื่น ๆ เมื่อคู่ของเขาเติมเต็มเรื่องนี้ให้เขาได้ไม่เต็มที่ ก็ต้องหาสิ่งที่มาเติมเต็มคือการมาใช้บริการเรา ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรเกินเลยมากไปกว่าสิ่งที่เขาต้องการ เราบริการให้เขาจนกว่าเขาจะพึงพอใจ จบงานก็คือจบ

เพราะคนพิการก็คือคน

ตอนนี้เรามองเรื่องเซ็กซ์ของคนพิการต่างออกไปจากเดิมมาก เราคิดว่าคนพิการกับการมีเซ็กซ์ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร เขาอาจจะทำแบบคนไม่พิการไม่ได้เพราะข้อจำกัดของร่างกาย เราก็เป็นฝ่ายเริ่มให้เขาก่อน นอกนั้นก็ปกติเลย

ลูกค้าคนพิการส่วนใหญ่จะมารยาทดี คุยกับเราสุภาพมากและดูแลตัวเองดีมาก อย่างเรื่องความสะอาดของร่างกาย เขาจะจัดการตัวเองหมด เราแทบไม่ต้องช่วยเหลืออะไรเลยถ้าไม่ใช่เคสที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้จริงๆ เราค่อยคอยช่วยเขาเท่าที่เราทำได้

ถ้าถามว่าบริการคนพิการแล้วคิดเงินเพิ่มบ้างไหม เราไม่เคยคิดเงินเพิ่มนะ ส่วนใหญ่จะได้เป็นทิปมากกว่า เราว่าการคิดเงินเพิ่มเท่ากับไปตอกย้ำการที่เขาช่วยเหลือตัวเองเรื่องนี้ไม่ได้ อีกอย่างคือเขาถนอมและปฏิบัติกับเราดีกว่าคนไม่พิการอีก เลยมองว่ามันไม่จำเป็นต้องคิดเงินอะไรเพิ่มเลย

ไซด์ไลน์มองคนพิการอย่างไร

ในกลุ่มเราเองก็มีคนที่ไม่รับงานกับคนพิการนะ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงหน้าตาดีหน่อย เพราะเขาคิดว่าทำงานกับคนพิการแล้วใช้เวลานาน ยืดเยื้อ เนื่องจากเขาช่วยเหลือตัวเองได้ไม่เท่าคนไม่พิการ บางคนมองว่าคนพิการมีความรู้สึกทางเพศได้อีกเหรอ ดูแลตัวเองยังไม่ได้เลย แต่เรากลับมองว่า การที่เขาอยากมีเซ็กซ์มันไม่ใช่เรื่องแปลก เป็นเรื่องธรรมชาติ

การทำงานไซด์ไลน์ให้อะไร

สมัยนี้คนทำงานหาเงินเพื่อเอาไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและซื้อความสุขให้ตัวเอง บางคนได้เงินมาแล้วเอาไปซื้อเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ หรือโทรศัพท์มือถือ เราเองพอเจองานที่ทำแล้วสนุกและได้เงินด้วยเราก็อยากทำ งานนี้เป็นเพียงอาชีพเสริมเพื่อเอาเงินไปดูแลครอบครัว งานหลักเราก็ทำปกติ มีเยอะนะที่ทำงานหลักและรับงานแบบนี้ไปด้วย ซึ่งเราก็มองว่าไม่ได้เลวร้ายอะไร เพราะมันคืองาน บริการ พอจบงานก็คือจบเรากลับไปใช้ชีวิตปกติของเราเหมือนเดิม