Skip to main content

วันนี้ (24 ก.ย.61) กลุ่มคนพิการทางสายตากว่า 50 คนพร้อมเครือข่ายซึ่งได้รับประโยชน์จากมาตรา 33, 35 เข้าพูดคุยกับวิวัฒน์ ตันหงส์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน ณ กระทรวงแรงงาน เขตดินแดง โดยระบุว่า การยื่นหนังสือของปรีดา ลิ้มนนทกุล เครือข่ายพิทักษ์สิทธิคนพิการ ต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ให้ตรวจสอบการทุจริตเงินจ้างงานคนพิการตามมาตรา 33, 35 นั้นเป็นการเหมารวมคนพิการ อีกทั้งมาตรา 33 และ 35 มีประโยชน์ต่อการจ้างงาน การออกมายื่นหนังสือของปรีดาจึงอาจกระทบต่อการตัดสินใจจ้างงานต่อไปในอนาคต

โดยหลังเข้าพูดคุยกับรองปลัดกระทรวงแรงงาน นฤชล โสภา อนุกรรมการฝ่ายอาชีพ สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย ได้ระบุเพิ่มว่า การออกมาเคลื่อนไหวของปรีดากรณีทุจริตการจ้างงานคนพิการตามมาตรา 35 ของ พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ นัั้นเป็นข้อมูลที่เกินจริง ทำให้คนพิการส่วนใหญ่ที่ได้รับประโยชน์จากมาตรา 35 ได้รับผลกระทบ รวมทั้งยอมรับว่า มีการทุจริตเกิดขึ้นจริง แต่เป็นแค่ส่วนหนึ่ง จึงอยากให้แยกแยะกันเป็นกลุ่มๆ มากกว่าเหมารวม

นฤมลตั้งข้อสังเกตว่า หากมีปัญหาจริงตามที่ปรีดากล่าว ก็น่าจะมีคนพิการออกมาเคลื่อนไหวมากกว่านี้ เพราะตัวเลขที่ปรีดาระบุนั้นมีจำนวนมาก และแนะนำนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่ายกเลิกมาตรา 35 เพราะไม่อยากให้คนพิการที่มีงานทำต้องตกงาน

ณัฐพล ลาภเกิน จากองค์กรพิทักษ์สิทธิผลประโยชน์คนพิการเปิดเผยข้อมูลว่า การเคลื่อนไหวของปรีดาอาจมีผลประโยชน์แอบแฝง เนื่องจากก่อนหน้านี้เขาไม่ได้รับการอนุมัติโครงการการจ้างงานคนพิการจากบริษัทต่างๆ พร้อมย้ำว่า อยากให้บริษัทมั่นใจในกฏหมายการจ้างงานคนพิการมาตรา 35 ว่าเงินที่จ่ายไปจะถึงมือคนพิการแน่นอน และต้องการให้ปรีดาระบุข้อมูลอย่างเจาะจงว่า เป็นบริษัทหรือกลุ่มไหนที่ทำผิด จะได้ไม่เหมารวมคนพิการ

ทางด้าน วิวัฒน์ ตันหงส์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวหลังจากรับฟังข้อมูลว่า ตนจะติดตามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมอย่างรอบด้าน รวมถึงจากการรับข้อมูลและการลงพื้นที่ เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย

 

อ่านข่าว คนพิการยื่น กสม.สอบสมาคม-มูลนิธิทุจริตเงินทำงาน-อบรม 1,500 ล้านต่อปี

https://thisable.me/content/2018/09/462

อ่านข่าว รมต.แรงงานเตรียมตั้ง กก.สอบข้อเท็จจริงทุจริตเงินคนพิการ ใน15วัน ชี้ไม่เคยได้รับร้องเรียน

https://thisable.me/content/2018/09/463