Skip to main content

"นโยบายของทุกรัฐบาลที่ผ่านมามักมองข้ามคนพิการ เป็นเพียงนโยบายที่คิดให้คนพิการเท่านั้น แต่ไม่มีวิธีทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ยั่งยืน หรือทำให้บริการสาธารณะรองรับคนพิการ จึงควรมีพรรคการเมืองที่กำหนดนโยบายเหล่านี้สำหรับคนพิการโดยเฉพาะ เลยเป็นที่มาของพรรคพลเมืองไทยที่จะเน้นนโยบายคนพิการ เพื่อให้คนพิการอยู่ได้ในสังคม" โฆษกพรรคพลเมืองไทย

คุยกับธนชาติ แสงประดับธรรมโชติ โฆษก และชีวานนท์ พรรัตน์นิติกุล รองโฆษกพรรคพลเมืองไทยถึงนโยบายที่พวกเขาอยากจะทำ

มองคนพิการเป็นใคร

คนพิการเป็นพลังที่จะสร้างแรงดึงดูดให้สังคมได้ร่วมกันพัฒนา เราต้องสร้างแต้มต่อให้กับคนพิการไม่ใช่อยู่ๆคนเราจะมีความเสมอภาคกันได้ ในพรรคเรามีผู้สมัครประมาณ 10 คนเป็นคนพิการ เราพยายามจะหาให้ได้เยอะๆ แต่ด้วยคุณสมบัติต่างๆ ที่ยังไม่ตรงตามเกณฑ์จึงมีเพียงเท่านี้

ปัญหาเรื่องคนพิการที่พรรคมองเห็น

ปัญหาการบริการสาธารณะ ทั้งเดินทาง ถนน อาคาร และการไม่มีอารยะสถาปัตย์ เหมือนที่เราเคยร่วมต่อสู้เรื่องลิฟต์รถไฟฟ้า BTS จนต้องฟ้องคดีแล้วก็ทำอะไรไม่ได้

คนพิการอาจจะมีความพิการที่แตกต่างกันไปจึงไม่สามารถดำเนินชีวิตอย่างคนปกติได้ ต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกหรือบริการต่างๆ เข้ามารองรับการเดินทาง แม้กฎหมาย และพระราชบัญญัติต่างๆมีบัญญัติมานานแล้ว เช่น กฎกระทรวงการกำหนดลักษณะหรือการจัดให้มีอุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวก หรือบริการในอาคารสถานที่ หรือบริการสาธารณะอื่นๆ เพื่อให้คนพิการเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้ คนพิการจึงเข้าสู่การเมือง เพราะอยากเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ แทนที่จะเป็นคนเรียกร้อง การทำสิ่งต่างๆเป็นการทำเพื่อคนทั้งมวล อย่างรถเมล์ชานต่ำที่วิ่งอยู่ก็เป็นเพราะคนพิการเท่านั้นที่ต่อสู้มา แต่สุดท้ายทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุ เด็กเล็ก สตรีมีครรภ์ หรือผู้ป่วยก็สามารถขึ้นรถเมล์ชานต่ำได้อย่างสะดวก

นโยบายเรื่องคนพิการของพลเมืองไทย

เรามองภาพของคนพิการเป็นกลุ่มใหญ่ เป็นกลุ่มที่มีพลังช่วยผลักดันนโยบาย ลำพังตัวพรรคการเมืองหากไม่เข้าใจความต้องการของคนพิการจริงก็ผลักนโยบายไม่ได้ พรรคจึงเสนอ

1.ทำให้เงินกองทุนคนพิการเป็นก้อนใหญ่ เงินส่วนหนึ่งที่มาจากการขายสุรายาเมาที่นำไปสู่ปัญหาคนพิการต้องเจียดเข้ากองทุน รวมถึงรายได้อื่นที่ก่อให้เกิดความพิการ พอเราได้เงินก้อนใหญ่มา ก็วางรูปแบบบริหารจัดการ จัดสวัสดิการให้เป็นระบบ เพื่อให้คนพิการที่มีอยู่เกือบ 2 ล้านเข้าถึงสิ่งเหล่านี้ได้

2.สายตาของประชาชนอาจมองว่าคนพิการคือภาระ แต่เราจะเปลี่ยนภาระให้เป็นพลัง โดยการสร้างสังคมสวัสดิการ ซึ่งต่างจากหลายพรรคการเมืองที่พยายามพูดถึงรัฐสวัสดิการ พลเมืองไทยมองข้ามรัฐสวัสดิการแต่อยากสร้างสังคมไทยเนี่ยให้เป็นสังคมสวัสดิการ หมายความว่า รัฐก็เป็นส่วนหนึ่งและภาคเอกชนก็ต้องมาร่วมเอารายได้ที่เป็นกำไรทอนกลับมาให้สังคม นอกจากนี้ภาคประชาสังคมที่มีแนวนโยบายอยู่แล้ว เราจะเข้าไปจัดระบบ

3.คนพิการมีสองแบบคือทำงานได้ และไม่สามารถทำมาหาเลี้ยงชีพได้ คนพิการที่ทำงานได้ก็ต้องทำให้อาชีพยั่งยืนมั่นคง คนไม่มีงานก็ต้องสร้างงาน เพิ่มเบี้ยคนพิการสำหรับคนว่างงาน และติดตามบังคับใช้พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการในเรื่องการจ้างงานที่ไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เช่น จ้างคนพิการแล้วไม่ได้ทำงานจริง มีภาคเอกชนที่มีพฤติกรรมเหล่านี้จำนวนมากที่คนพิการตกเป็นเครื่องมือของการแสวงหารายได้

คนพิการจะต้องพัฒนาตัวเอง เราจึงอยากมุ่งเน้นในเรื่องของการพัฒนาศักยภาพของคนพิการ ไม่ว่าจะเป็นทักษะต่างๆ เช่น ฝีมือ ระบบคอมพิวเตอร์ และธุรการ ต้องดูดีในสายตาของนายทุนและสถานประกอบการ นอกจากนี้ก็จะเสนอให้แก้ไขพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานปี 2541 โดยบรรจุเรื่องหมวดแรงงานคนพิการและผู้สูงอายุเข้าไปด้วย เพื่อให้ได้รับสิทธิและสวัสดิการที่ดีในการทํางาน

4.การคุ้มครองสิทธิคนพิการ โดยเน้นเรื่องหลักสิทธิมนุษยชนเพื่อให้เกิดความเท่าเทียม โดยเริ่มจากในบ้าน พอมีกระบวนการคิดและการดำรงชีวิตที่ดีจากในบ้าน ก็ค่อยออกมาสู่สังคมภายนอกซึ่งต้องมีระบบหนทางต่างๆให้เดินทางได้อย่างสะดวก 

5.การสร้างสังคมอารยะ จากการประกันรายได้ของคนพิการ กองทุนคนพิการ และคุ้มครองสิทธิปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางการเมืองโดยเปิดพื้นที่ให้คนพิการเข้ามามีส่วนร่วมกับพรรคเรา 

นโยบายทั้งหมดจะเป็นจริงได้อย่างไร

จะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนเรายังไม่รู้ แต่ต้องผลักดันให้เกิด และแจ้งให้พี่น้องคนพิการเข้าใจปัญหา เพื่อร่วมกันแก้ไข

 

อ่านนโยบายคนพิการจากพรรคอื่นๆ ได้__ที่นี่__