Skip to main content

เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ในที่ประชุม ที่มีจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ ได้พิจารณามาตรการช่วยเหลือคนพิการซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเรื่องการเข้าถึงโอกาสกาสการจ้างงาน เพื่อให้คนพิการมีรายได้ ชีวิตมีความมั่นคง และลดการพึ่งพาผู้อื่น

จึงมีมติให้กองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) เร่งช่วยเหลือคนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการให้เข้าถึงเงินทุนเพื่อประกอบอาชีพกรณีฉุกเฉิน จำนวน 2,000 ล้านบาท และเห็นชอบการปรับแก้ระเบียบคณะกรรมการฯ ว่าด้วยการพิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินเพื่อการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และการจัดทำรายงานสถานะการเงินและการบริหารกองทุนฯ ร่างระเบียบที่แก้ไขใน 4 ข้อคือ  

1) ให้กู้เงินเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพกรณีฉุกเฉินไม่จำเป็นต้องมีผู้ค้ำประกัน 

2) วงเงินกู้ฉุกเฉินไม่เกินรายละ 1 หมื่นบาท กำหนดระยะเวลาการชำระหนี้ให้เสร็จสิ้นใน 2 ปี นับแต่วันลงนามในสัญญากู้ 

3) ไม่มีดอกเบี้ย และอาจให้เริ่มชำระหนี้คืนเมื่อพ้นกำหนด 1 ปีนับตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญากู้ยืม

4) เพิ่มช่องทางในการยื่นคำขอก็ยืมเงินทุนประกอบอาชีพ สามารถยื่นผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้

โดยจะเร่งมาตรการทั้งหมดให้สามารถออกประกาศใหม่ภายใน 30 วัน และวางระบบการทำงานทั้งในส่วนกลางและภูมิภาคให้กระชับรวดเร็ว เพื่อพิจารณาการปล่อยสินเชื่อแก่คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการใน 1 เดือนนับแต่วันยื่นขอกู้ 

อย่างไรก็ดี มาตรการกู้เงินฉุกเฉินเป็นหนึ่งในมาตรการการช่วยเหลือกลุ่มคนพิการในช่วงโควิด-19 ตามที่พัชรี อาระยะกุล รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ชี้แจงไว้ 4 ข้อ ตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค.63 (กดอ่านที่นี่) โดยนอกจากการกู้เงินฉุกเฉินแล้ว ยังมีอีก 3 มาตรการได้แก่ เงินช่วยเหลือแบบให้เปล่าครั้งเดียว 1,000 บาทแก่คนพิการทุกคน ที่ได้จ่ายไปแล้วเมื่อวันที่ 29 พ.ค. (กดอ่านที่นี่) , การพักชำระหนี้คนพิการที่กู้เงินจากกองทุนฯ ในสังกัดเป็นเวลา 1 ปี ตั้งแต่ช่วงนี้ถึงปีหน้า และการปรับเบี้ยคนพิการแบบถ้วนหน้าโดยไม่ต้องมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 2 ล้านคน คนละ 1,000 บาท  (กดอ่านที่นี่) แต่อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 28 เม.ย. รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกลับระบุว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้เพิ่มเบี้ยคนพิการให้แก่ผู้ถือบัตรคนพิการ 2 กลุ่มเท่านั้น คือพิการที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ราว 120,000 คน และกลุ่มคนที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (กดอ่านที่นี่) โดยจะได้รับเดือนแรกในเดือน ต.ค.63

 

ที่มา
https://mgronline.com/politics/detail/9630000085330?fbclid=IwAR3PMyRRfzUf_4gcr9a3AmL_KJ0_Huj_KJKlmC2Bpnpmm28IDb59GVD-TvY