Skip to main content

ใครๆ อาจพูดกันว่า ประสบการณ์นำมาซึ่งความสำเร็จ เช่นเดียวกับผู้ชายตัวเล็กอย่างภาษ อินก่ำ พ่อค้าขายแหนมออนไลน์ ที่เขาได้ผ่านการลองผิดลองถูก ทดลองทำในสิ่งที่ชอบโดยไม่กลัวความผิดหวัง Thisable.me ชวนรู้จักภาษผ่านสิ่งที่เขาทำมาตลอด ซึ่งทำให้เราได้รู้เรื่องราวชีวิต ประสบการณ์ในการลองทำสิ่งต่างๆ และปัญหาที่พบในฐานะคนแคระที่นั่งวีลแชร์ ทำความรู้จักกับภาษ

ภาษ: ผมเป็นคนแคระที่นั่งวีลแชร์เพราะแขนขาอ่อนแรง ตอนนี้ขายของแหนมและขนมต่างๆ ออนไลน์อยู่ที่บ้าน  พอลูกค้าสั่งเราก็ส่งพัสดุถึงมือลูกค้าได้อย่างปลอดภัย 

ก่อนที่จะตัดสินใจขายของออนไลน์เราทำงานประจำมาก่อน ตอนปี 2554 เพิ่งเรียนจบทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์อยู่ที่กรุงเทพฯ แต่ทำงานได้ 3 เดือนก็ลาออกมาเล่นดนตรีเปิดหมวกจนถึงปี 2562 ที่โควิด - 19 เกิดขึ้นและต้องเว้นระยะห่างทางสังคม ทำให้เล่นดนตรีเปิดหมวกไม่ได้ จึงตัดสินใจขายของออนไลน์แทน

ทำไมถึงตัดสินใจขายของออนไลน์?

รู้สึกไม่ชอบงานโปรแกรมเมอร์ ประกอบกับตอนนั้น ทำงานกับเพื่อนคนพิการหลายคนแต่ห้องน้ำมีห้องเดียว เลยรู้สึกว่าไม่สะดวกที่จะอยู่ร่วมกัน เราเลยลาออกมาหาอะไรทำ ตอนแรกก็จะหาไอเดียขายของ แต่ไปเห็นน้องคนหนึ่งเป่าแคนเปิดหมวกแล้วน่าสนุกดี ก็เลยตัดสินใจเล่นอูคูเลเล่เปิดหมวกเป็นอาชีพ หลังเล่นมาเรื่อยๆ เจอโควิดระบาดก็เล่นต่อไม่ได้เลยคิดขายของออนไลน์แทน 

พอได้ลองขายก็รู้สึกว่าเข้ากับตัวเองมาก เพราะเรามีอิสระและสะดวก เพราะเราไม่สามารถจัดการระบบขับถ่ายของตัวเองได้ สาเหตุนี้ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ลาออกจากอาชีพโปรแกรมเมอร์ด้วย 

ปัญหาที่คนนั่งวีลแชร์เผชิญ

การนั่งอยู่บนวีลแชร์จะไม่ค่อยมีปัญหาอะไรแต่เจอความไม่สะดวกในสถานที่ที่วีลแชร์จะไปเยอะมาก ตอนที่อยู่กรุงเทพฯ ปัญหาที่เจอบ่อยสุดคือปัญหาทางเท้า ทั้งมอเตอร์ไซค์ขี่ขึ้นมาบนทางเท้า และเสากั้นมอเตอร์ไซค์ที่เอาไว้กันไม่ให้มอเตอร์ไซค์ขี่ขึ้นบนทางเท้า แต่เสานั้นทำให้วีลแชร์ผ่านไม่ได้ ตรงทางม้าลายก็กั้นไม่ให้มอเตอร์ไซค์กลับรถแต่วีลแชร์ก็ไปไม่ได้อีกจนต้องลงมาวิ่งบนถนน ต้องติดไฟแดงตามรถยนต์ ซึ่งค่อนข้างอันตราย

ความเข้าใจต่อคนพิการที่อยากให้เกิดขึ้น

อยากให้หลายหน่วยงานมีความเข้าใจเพราะตอนนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นหลายอย่างเป็นเพราะความไม่เข้าใจ และไม่เคยถามความต้องการจากคนพิการเลย จะกั้นก็กั้นแบบส่งๆ จะทำอะไรก็ทำเลย อย่างพอมีทางลาดขึ้นบนทางเท้า แต่ไม่อยากให้มอเตอร์ไซค์ขึ้นก็เลือกเอาเหล็กมากั้น คนทั่วไปจะเดินก็แค่เบี่ยงเอวผ่านช่องว่างได้ แล้วคนที่ใช้วีลแชร์จะผ่านทางนี้ยังไง? ก็จะเห็นได้ว่า เขาไม่เคยนึกถึงคนที่อ่อนแอที่สุดในสังคมอย่างคนพิการ 

หากคนใช้วีลแชร์สามารถไปไหนมาไหนได้สะดวก ทุกคนบนโลกก็จะไปไหนมาไหนได้สะดวกเหมือนกันหมด ไม่ใช่เฉพาะคนพิการ 

ผลกระทบจากโควิด-19 ส่งผลอย่างไรบ้าง?

โควิด-19 ส่งผลกระทบรุนแรงต่อคนพิการมากผมไม่รู้ว่าคนพิการแต่ละคนมีรายได้เท่าไหร่ แต่น้าตาบอดที่เดินร้องเพลงก็ต้องเลิกทำไปเพราะมาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคม วงดนตรีคนตาบอดอย่างวงไดมอนด์ก็ต้องเลิกทำไป อีกทั้งไม่มีใครรู้ว่าหน้าตาของโรคนี้เป็นยังไง จะหายไปตอนไหน หรือจะอยู่กับเราอีกนานแค่ไหน 

คนพิการหลายคนไม่รู้จะไปทำอาชีพอื่นอย่างไร เพราะคนพิการหางานทำยากอยู่แล้ว ยิ่งช่วงโควิดก็ยากขึ้นไปอีก บางทีก็ทำงานได้ค่าตอบแทนที่น้อยกว่าคนทั่วไป แม้จะมีเบี้ยคนพิการ 800 บาท ก็ไม่พอใช้ในแต่ละเดือนหรอก คนที่อ่อนแอที่สุดอย่างคนพิการที่ติดเตียง แค่ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับระบบขับถ่ายก็ไม่พอแล้ว ส่วนคนพิการที่สามารถทำงานได้แต่ต้องหยุดพักในช่วงโควิด-19 หรือเลิกทำอาชีพไป เงิน 800 บาทจึงไม่ช่วยให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้นได้

 อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้คนพิการหางานทำยาก

โลกมันเปลี่ยนไปเร็ว แต่การเข้าถึงการศึกษาของคนพิการกลับน้อยมาก แม้กระทั่งการเข้าถึงความรู้ใหม่ๆ ก็ยังยาก ตอนเริ่มขายของเราก็เปิดยูทิวป์เรียนรู้เอง ผู้สอนก็ไม่มีความรู้ใหม่ๆ มากพอ พอบวกกับโอกาสจากครอบครัวที่มองว่าคนพิการต้องได้รับการศึกษาก็ยิ่งมีน้อย หรือแทบไม่มีด้วยซ้ำ ฉะนั้นการเข้าถึงความรู้เลยโดนปิดกั้น คนพิการหลายคนเลยทำได้เพียงขายลอตเตอรี่ ไม่ก็อยู่บ้าน โดยถูกห้ามไม่ให้ออกไปเรียนหรือออกไปทำอะไรเลย

ความสามารถที่ถูกมองข้ามเมื่อเป็นคนพิการ

เวลาคนพิการไปในที่สาธารณะ เช่น ผมที่เป็นคนแคระมาเล่นดนตรี บางครั้งคนก็มองว่าตลก บางสายตาก็เหมือนเหยียด สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เจอบ่อยมากทั้งๆ ที่เราก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ใช้ความสามารถของตัวเองทำงานหาเงินผ่านการเล่นดนตรีเปิดหมวก

ซื้อเพราะสงสาร ซื้อเพราะอยากช่วย คิดอย่างไรกับคำพูดเหล่านี้?

เจอบ่อยมาก เราก็บอกว่าเอาเงินมาสิ เราเคยเล่นดนตรีเปิดหมวกแล้วโดนไหว้ขอพรบ้าง ขอหวยก็มี เจอจนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว สำหรับเราคิดว่าก็ตลกดีนะ ยังเคยผมคุยกับแม่เลยว่า ‘เออ ดีนะ ได้เป็นผู้วิเศษด้วย’ แต่ตอนนี้รับมือได้แล้ว มองว่าเราทำเพราะอยากได้เงิน และแน่นอนว่าถ้ามาเปิดหมวกคนอาจมองว่าเป็นขอทาน เราเคยโดนชี้หน้าด่าด้วย ตอนนั้นผมแก้ปัญหาด้วยการถามว่าชี้ทำไม เขาไม่มีคำตอบให้หรอก บอกเลยว่าไม่เคยกลัวคนพวกนี้ แต่พอทำแบบนั้นก็เหนื่อย ไปไล่ทะเลาะกับทุกคนไม่ได้หรอก ก็เลยตัดสินใจว่าช่างเขาเถอะ ทำงานของเราดีกว่า

ทำไมจึงเป็นแหนมคุณภาษ 

จุดเริ่มต้นของการขายของออนไลน์เป็นแหนม เพราะเป็นสินค้าที่สามารถส่งได้โดยไม่เสีย แถมแม่เรายังทำแหนมเก่งด้วย แต่พอผ่านมาช่วงหนึ่งก็พยายามหาพาร์ทเนอร์เป็นขนมอย่างอื่นที่สามารถส่งได้ และนำมาทำเป็นแบรนด์ของตัวเอง เช่น คุกกี้กับคอนเฟลค ถือเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า 

สำหรับแหนมของเราจะล้างเนื้อสัตว์อย่างดี ตากไว้จนแห้งก่อนนำไปทำเพื่อให้สินค้าคงคุณภาพดีและไม่เสียก่อนถึงมือลูกค้า ช่วงแรกๆ ก็มีผิดพลาดบ้าง เราก็เรียนรู้โดยเปิดดูวิธีจากยูทิวป์ จนรู้ว่าควรตากเนื้อสัตว์ให้แห้งประมาณไหนค่อยนำมาทำแหนม เราเรียนรู้ทุกอย่างจากยูทิวป์ เพราะคอร์สต่างๆ มีราคาค่อนข้างแพง ก็เลยเลือกเรียนรู้ข้อมูลฟรีจากทุกคนแล้วมารวมเป็นตัวเราดีกว่า ยูทิวป์ทำให้รู้ว่า ถ้าเราก็ใช้เครื่องมือเหมือนๆ กัน ขั้นตอนคล้ายกัน ทำไปทำมาเดี๋ยวก็สำเร็จเองแหละ แม้แต่ขับรถยนต์เป็นก็ฝึกขับเองจากยูทิวป์ของคนต่างประเทศ โดยมีแม่ช่วยยกวีลแชร์ให้ หรือโทรเรียกเพื่อนให้มาช่วยยก

ก่อนหน้านี้เราเคยไปสมัครเรียนขับรถเพราะอยากได้ใบขับขี่ แต่เขาไม่รับเพราะต้องใช้รถของเขา กลัวว่าเราจะเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ อาจเพราะเห็นรถของผมก็มีร่องรอยการชนหรือขูดเต็มไปหมด ตอนที่ไปสอบใบขับขี่อาคารก็ไม่มีลิฟต์ เจ้าหน้าที่ต้องมาช่วยยกขึ้นไป จังหวัดยังมีอีกหลายที่ที่ไม่มีลิฟต์ นี่เป็นปัญหาหนึ่งที่คนพิการหลายคนยังต้องเผชิญ                                                                                                                                                                           

ประสบการณ์ช่วยเพิ่มพลังความกล้าและใจที่แข็งแกร่ง

เราเป็นมนุษย์ Extrovert ชอบออกไปเพิ่มพลังด้วยการไปหาประสบการณ์เองจนเข้าใจ ไม่เคยแคร์สายตาคนมองด้วยเพราะคิดเสมอว่า มองแล้วยังไง ยังไงเราก็แก้ความพิการไม่ได้  เราอยากรู้มากว่าถ้าไปสถานที่นี้แล้วจะเป็นยังไง ถ้าทำแบบนี้ หรือลองขับรถแล้วจะเป็นยังไง ถ้าลองไปตลาดคนเดียวคนจะมี Reaction ยังไง เราไม่ต้องไปแคร์แต่เลือกเก็บมาเป็นความรู้และประสบการณ์ ถึงจะพิการ มองดูแล้วภายนอกแตกต่างแต่เราก็มีหัวใจ มีความรู้สึกรัก โลภ โกรธ หลงได้เช่นกัน แม้บางทีเราอาจโกรธเขาที่มองแบบนั้น แต่ก็อยากให้คิดว่านี่คือปกติของคน เราเป็นคนนะ

ยูทิวป์สอนว่า คนไม่ได้เป็นสัตว์ชนิดเดียวและไม่ได้เก่งแค่ด้านเดียว ถ้าหาความรู้ใหม่เราก็จะเป็นสัตว์ชนิดใหม่ สามารถแปลงร่างไปเรื่อยๆ ตอนที่เปลี่ยนจากเดินได้มานั่งวีลแชร์ เราก็ต้องหัดทำนั่น ทำนี่บนวีลแชร์ จนสามารถทำได้ จุดนี้ก็ทำให้ผมแข็งแกร่งขึ้นและไม่กลัวการเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆ พร้อมกับออกไปหาประสบการณ์นอกบ้านไปด้วย

สำหรับเราแม่เป็นคนสำคัญมาก คอยสนับสนุนทุกอย่าง ให้เราได้ออกไปใช้ชีวิตตามที่ตัวเองต้องการ เราได้เรียนรู้เอง พอเจ็บปวดก็มากอดกัน คุยกัน เราเลยกล้าทำสิ่งใหม่ๆ โดยที่ไม่กลัวผิดหวังเพราะมีกำลังใจที่ดีอย่างครอบครัวคอยสนับสนุนสิ่งที่ทำอยู่เสมอ

สำหรับเพื่อนคนพิการก็อยากให้มองว่า ความรู้ใหม่นั้นสำคัญมาก ให้ถามตัวเองว่าอยากรู้อะไร ชอบอะไร ความปลอดภัยในชีวิตคนก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องเงินและสุขภาพ หาความรู้ในยูทิวป์และต้องลงมือทำอย่างรวดเร็ว ผิดพลาดให้เร็วที่สุด เจ็บปวดให้เร็วที่สุด สิ่งเหล่านี้จะบ่มเป็นก้อนแห่งความสุขในภายภาคหน้า สำหรับครั้งนี้ก็ฝากร้านชื่อเพจว่า แหนมคุณภาษ ขายแหนมทั้งสามชั้น สันคอ กระดูกอ่อน เอ็นไก่ หมูสับ หมูแดดเดียว หากสนใจสามารถทักมาสอบถามเรื่องราคาและสินค้าได้ตลอดเลย