Skip to main content

เอลินอร์ แอล โรสส์ ผู้พิพากษาประจำศาลยุติธรรมสหรัฐอเมริกา ประกาศพักการพิจารณาคดียกเลิกศูนย์บริการทางการศึกษาและการเยียวยาแห่งรัฐจอร์เจีย (the Georgia Network for Educational and Therapeutic Services: GNETS) อย่างไม่มีกำหนด ศูนย์แห่งนี้เป็นเครือข่ายที่ดูแลเด็กหลายพันคนในรัฐจอร์เจีย ที่มีปัญหาทางด้านอารมณ์และพฤติกรรม การแสดงออก โดยสนับสนุนด้านการศึกษา การให้คำปรึกษาและการสร้างความเข้าใจระหว่างเด็กและคนใกล้ชิด

คดีนี้มีการยื่นฟ้องเมื่อปีที่แล้ว โดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เป็นผู้ฟ้องรัฐจอร์เจีย ตามรูปคดีที่ได้มีการยื่นฟ้องมายังศาลนั้นกล่าวหาว่า รัฐจอร์เจียแบ่งแยกนักเรียน นักศึกษาพิการจากศูนย์ GNETS ออกจากเด็กคนอื่นๆ ที่ไม่พิการอย่างผิดกฎหมาย

ทางกระทรวงยุติธรรมได้ระบุอีกว่า นักเรียน นักศึกษาพิการหลายคนที่ยังคงใช้บริการหรือเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ GNETS นั้นต้องเผชิญกับความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้น และพวกเขากำลังขาดปัจจัยพื้นฐานหลายๆ ด้าน เช่น ห้องสมุด ห้องแล็บวิทยาศาสตร์ โรงยิม และคาเฟ่

เมื่อปีที่แล้วเดอะแอดแลนต้า เจอนัลล์ หนังสือพิมพ์ใหญ่เมืองแอตแลนต้า เมืองหลวงของรัฐจอร์เจียรายงานว่า โรงเรียนต่างๆ ในรัฐจอร์เจีย ส่งเด็กนักเรียนผิวดำ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เด็กชายผิวดำให้ไปอยู่ภายใต้การดูแลของศูนย์ GNETS

อย่างไรก็ดี ผู้พิพากษาโรสส์ได้สั่งเลื่อนการพิจารณาคดีไปจนกว่าศาลรัฐบาลกลางในเมืองแอตแลนต้า จะตัดสินอีกคดีเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นในรัฐฟลอริด้า ซึ่งพิพาทกันเรื่องอำนาจหน้าที่ของกระทรวงยุติธรรมในการยื่นฟ้องคดีความ ที่อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติคนพิการอเมริกัน (the Americans with Disabilities Act: ADA) จึงจะสามารถระบุได้ว่า คดีที่เกิดขึ้นในรัฐจอร์เจียนี้อยู่ในขอบข่ายดังกล่าวด้วยเช่นกัน

สำหรับคดีในรัฐฟลอริด้า กระทรวงยุติธรรมได้ฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐว่า ได้จัดสร้างสถานพยาบาลสำหรับเด็กพิการราว 200 คน อย่างผิดกฎหมาย แต่วิลเลียม เจ สล็อกห์  ผู้พิพากษาจากศาลฟลอริด้าใต้ได้ตัดสินว่า รัฐบาลกลางไม่สามารถฟ้องร้องคดีที่อยู่ภายใต้การดูแลของ พ.ร.บ.คนพิการอเมริกันได้  คนที่ฟ้องร้องได้จะต้องไม่ใช่ภาครัฐแต่ต้องเป็นการฟ้องร้องจากบุคคลเท่านั้น ซึ่งหากการตัดสินออกมาในรูปนี้ก็จำเป็นต้องรอดูท่าทีของศาลรัฐจอร์เจียที่มีต่อคดีรัฐฟลอริด้า เพราะอาจส่งผลต่อการเทียบเคียงคดีความและการตัดสินที่กำลังจะมีขึ้นหลังจากถูกเลือนการพิจารณาคดีออกไป

อย่างไรก็ดี กระทรวงยุติธรรมยังไม่ยอมรับคำตัดสินนี้ โดยได้ยื่นอุทรณ์คดีที่เกิดขึ้นต่อไปอีก อย่างไรก็ดี ยังไม่มีกำหนดเวลาดำเนินการในศาลชั้นอุทรณ์ และยังไม่มีทีท่าว่าจะตัดสินอย่างไรในเร็ววัน ทั้งนี้ มีแนวโน้มว่าคดีความจะยืดเยื้อไปจนถึงศาลสูงสหรัฐฯ ซึ่งต้องใช้เวลาในการดำเนินการยาวนานขึ้นไปอีก

การทำงานของศูนย์ GNETS ถูกจับตามองตั้งแต่ปี 2552 ก่อนหน้านี้ มีการรายงานกรณีของโจนาธาน คิง เด็กชายวัย 13 ปี จากเมือง Hall Country ที่มีความบกพร่องด้านพฤติกรรม ที่ถูกครูและผู้บริหารของโรงเรียนThe Alpine GNETS program ในเมือง Gainesville กักบริเวณเด็กชาย 19 ครั้ง ในเวลากว่า 29 วัน ภายในห้องที่เรียกกันว่า time-out room ที่ลงโทษให้อยู่คนเดียว เป็นเวลาเฉลี่ยกว่า 90 นาทีที่เขาต้องอยู่ในห้องนี้ตามลำพัง

15 พ.ย. 2547 โจนาธานฆ่าตัวตายสำเร็จหลังพยายามฆ่าตัวตายมาแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ครูก็ยังปล่อยให้เขาเก็บเชือกไว้กับตัว เขาจึงสวมเชือกนี้ไว้แทนการรัดเข็มขัด ก่อนที่จะใช้เชือกเส้นดังกล่าวเป็นบ่วงแขวนคอตัวเองเพื่อฆ่าตัวตายในที่สุด

จากกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้นกับนักเรียน นักศึกษากว่าพันคน และโจนาธาน คิงนั้น แสดงให้เห็นถึงปัญหาช่องโหว่ของคุณภาพโรงเรียนและการทำงานร่วมกันระหว่างโรงเรียนกับศูนย์ให้บริการเด็กที่มีปัญหาด้านอารมณ์และพฤติกรรม อีกทั้งยังประสบปัญหาด้านการจัดการคุณภาพการให้บริการและบุคลากรที่เหมาะสมกับเด็ก นอกจากนี้ยังมีการผสมปนเปหน้าที่ความรับผิดชอบที่ไม่ได้เกี่ยวกับจุดประสงค์ตั้งต้นโดยตรง เช่น การจัดนักเรียนผิวดำให้เข้ามาอยู่ในความดูแล จึงส่งผลให้กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยื่นฟ้องเพื่อยกเลิกศูนย์ GNETS และการทำงานของศูนย์ดังกล่าวหากหน่วยงานไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะรับมือกับปัญหา